เมื่อพูดถึงพรรคการเมืองของไทย ก็ต้องนำร่องไปก่อนว่า
- พรรคการเมืองพรรคแรกของไทยตามนิตินัย ก็คือพรรคก้าวหน้า ของคุณชาย คึกฤทธิ์
- ส่วนพรรคการเมือง พรรคแรกจริงของไทยตามพฤตินัย ก็คือพรรค คณะราษฎร เมื่อ2475
กำเนิดของพรรคการเมืองไทย
เกิดจากบนลงล่าง งอกหัวมาก่อน แล้วมาต่อแขนขาทีหลัง กล่าวคือ พรรคการเมืองไทยจะเกิดจากคนที่เป็นแกนนำก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ กลุ่มผลประโยชน์ ข้าราชการเกษียร หรือ ถูกไล่ออก ปลดออก มีความผิดทางวินัย มารวมตัวกันก่อตั้งพรรคการเมือง
โดยไม่มีส่วนยึดโยงอยู่กับประชาชนแต่อย่างใด การเกิดของพรรคการเมือง มีเป้าหมายคือ อำนาจรัฐ เพราะอำนาจรัฐคือขุมทรัพย์ที่กินไม่มีวันหมด การส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าเป็นประชาชนธรรมดาอย่างเราท่านอย่าได้คิดฝันครับ
บางพรรคมีสาขาพรรค บางพรรคมีเพียงศูนย์ประสานงานของพรรคในแต่ละท้องที่ ในสาขาพรรค หรือศูนย์ประสานงานจะมีกรรมการบริหารของตนเองซึ่งได้รับการแต่งตั้งหรือยินยอมจากพรรค
ผู้ที่จะก่อตั้งศูนย์ประสานงานหรือสาขาพรรค ส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่มีอิทธิพลในท้องที่ หรือก็คือคนที่จะสมัครลงรับการเลือกตั้งนั่นเอง
- ในทางทฤษฎี เมื่อมีการยุบสภา ทางศูนย์หรือสาขา ก็จะคัดสรรคนในท้องที่มาเข้าที่ประชุมเพื่อลงมติให้เป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้ง
- แต่ในทางปฎิบัติ ก็คือประธานศูนย์ หรือคนใกล้ชิดของประธานศูนย์ ซึ่งบางครั้งประธานศูนย์เป็นน้อง - พี่ เครือญาติ นักการเมืองในท้องที่นั่นเอง เป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น ศูนย์ก็ส่งชื่อเข้าไปพรรค คนที่เป็นชาวบ้านทั่วไปมีสิทธิแค่เลือกหรือไม่เลือกเท่านั้นครับ
- ในส่วนกลางของแต่ละพรรค ก็จะมีคณะกรรมการคัดเลือกตัวผู้สมัครของพรรค พวกที่มีชื่อเสียง มีเงิน มีฐานะทางสังคม ก็จะถือกระเป๋าเดินตรงมาที่นี่โดยตรงไม่ผ่านสาขาท้องถิ่น
ดังนั้นเราจึงได้เห็นผู้สมัครของแต่ละพรรคเป็น ลูกหลานเครือญาตินักการเมือง เป็นดารา หรือบุคคลมีชื่อเสียง เป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ถือกระเป๋าใส่สูทเรียงหน้ามาเป็นแถว
- ถ้าเราจะแสดงความจำนงว่าต้องการลงเขตนี้ ปัจจัยพิจารณาคือ ส.ส.เก่าเขตนี้คือใคร เขาจะลงอีกหรือไม่ถ้าไม่ลงจะให้ใครลงแทน ถ้าไม่มี ส.ส. เก่า เราต้องเทียบกันหน่อย คุณสมบัติ ใครมีชื่อเสียงกว่ากัน บ้านใครมีรั้ว บ้านใครไม่มีรั้ว เพราะนั่นหมายถึงเงินในกระเป๋าด้วย หรือรู้จักใครบ้างในพรรคที่เป็นแกน หรือเล่นเส้น
ถ้าไม่มีก็กลับบ้านกินนำใบบัวบกครับ เป็นประชาชนทั่วไปจึงไม่มีโอกาสเลยหรือโอกาสเพียงแค่ 0.0000001 % เท่านั้นครับ นี่คือความจริง
- ประเภทโนเนมอย่าหวังครับ และเมื่อเข้าไปในพรรคก็จะ มีประเภทกลุ่มการเมือง ที่เรียกว่ามุ้ง กางอยู่หลายมุ้งครับ คุณก็เลือกเอาว่าจะเข้ามุ้งไหน ถ้าคุณถืออุดมการณ์มาดมั่น ไม่มีมุดมุ้งใคร ได้ครับ แต่ไม่รุ่ง
ถ้าเป็น ส.ส. แล้วตำแหน่งต่อไปคือ เลขา รัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ซึ่งทางการเมืองเขาเรียกตำแหน่งเหล่านี้ว่า เตรียมเป็นรัฐมนตรีครับ
แล้วยังมีตำแหน่งกรรมาธิการของสภาอีก ถ้าคุณอยู่นอกมุ้ง ก็อยู่อย่างนั้นครับ ของบ ขอความช่วยเหลือลงพื้นที่ อย่าหวังครับ ทุกอย่างคุณต้องควักกระเป๋าเอง นี่คือการเมืองไทย
ผมเล่าความจริงที่ไปฝังตัวอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก ผมหลีกเลี่ยงภาษาวิชาการที่สุด ดังนั้นถ้าอยากเป็นนักการเมืองไทยก็ ตรวจดูตัวเองให้ดีครับว่ามีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่ ถ้าต่างไปจากนี้ มาเหยียบผมได้ครับ
กังวาล ทองเนตร รัฐศาสตร์ การปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น