มาร์กาเร็ต อึ๊งภากรณ์ 1919-2012
มาร์กาเร็ตเกิดในตระกูลที่เน้นอุดมการณ์ แต่เป็นความเชื่อและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน
คุณตาเป็นครูสอนศาสนานิกายกระแสรองที่ปฏิเสธความหรูหรา
ในช่วงท้ายๆของชีวิตคุณแม่ของมาร์กาเร็ตเป็น “คเวเคอร์”พ่อของมาร์กาเร็ตเป็นคนอนุรักษ์นิยมรักชาติที่อาสาไปรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งทำให้แม่ของมาร์กาเร็ตต่อต้านสงคราม
มาร์กาเร็ตเติบโตที่ลอนดอนทางใต้ใกล้ๆ แม่น้ำเทมส์ เธอเล่าว่าตอนเด็กๆ จะไปเล่นตามสวนและทุ่งในพื้นที่จนรู้จักดอกไม้ธรรมชาติหลายชนิด มาร์กาเร็ดเข้าโรงเรียนสตรีเซนต์พอลส์ ซึ่งตอนนั้นมีอาจารย์เป็นเฟมินิสต์ และครูเหล่านั้นมีอิทธิพลกับมาร์กาเร็ตเป็นอย่างมาก
มาร์กาเร็ตเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและแน่วแน่ในความคิด และเธอเป็นคนกล้าหาญ เธอกล้าหาญในสองเรื่องใหญ่คือ
เรื่องที่หนึ่งคือ กล้าแสดงจุดยืนต้านสงคราม โดยที่ไม่ยอมทำงานช่วยรัฐบาลอังกฤษในการทำสงครามโลกครั้งที่สอง และเลือกไปทำงานสังคมสงเคราะห์แทน เพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเธอที่เป็นผู้ชายและต้านสงครามจะติดคุกเพราะไม่ยอมไปรบ มาร์กาเร็ดต่อต้านสงครามตลอดชีวิต เธอไปร่วมประท้วงใหญ่กับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งจากยุคมหาวิทยาลัย เพื่อต่อต้านสงครามอิรักในปี 2003 ตอนนั้นเขาอายุ 84
ในเรื่องที่สอง มาร์กาเร็ตกล้ารักเพื่อนนักเรียนคนที่ชื่อป๋วย
ซึ่งเป็นคนไทย สองคนพบกันที่มหาวิทยาลัยลอนดอน หลังสงครามโลกมาร์กาเร็ตกล้าตัดสินใจเดินทางไปอีกซีกหนึ่งของโลก เพื่อไปใช้ชีวิตในประเทศไทยที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เธอตั้งใจเรียนภาษาไทยจนอ่านและพูดได้
ศาสตราจารย์ ดร. ป๋วย อึ๊งภากรณ์
มาร์กาเร็ด เป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตย
ตอนที่เธอเรียนที่มหาวิทยาลัย เธอได้รับอิทธิพลจากเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับสส.ฝ่ายซ้ายของพรรคแรงงาน
มาร์กาเร็ตไม่ใช่มาร์คซิสต์
แต่ในช่วงแรกๆ เธอไม่ยอมเป็นสมาชิกพรรคแรงงาน เพราะมองว่าไม่ซ้ายพอ เธอพึ่งมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคแรงงานในช่วงท้ายของชีวิต ในยุคนายกแธชเชอร์ มันเป็นการแสดงจุดยืนต้านแธชเชอร์และพรรคพวก อย่างไรก็ตามเขาจะพูดเสมอว่าพรรคแรงงานถูกทำลายไปหมดโดยโทนนี่แบลร์ เธอเกลียดแนวเสรีนิยมและทัศนะมือใครยาวสาวได้สาวเอาของพวกกลไกตลาดและฝ่ายขวา เธอคัดค้านการแปรรูปรัฐสวัสดิการ และบ่นว่า “พวกใส่ซูด” คุมอำนาจเพื่อความโลภ
เธอรักประเทศไทยและอาศัยอยู่ในไทยหลายๆ ปี แต่เธอเกลียดทหารเผด็จการที่ชอบแทรกแซงการเมืองไทย เกลียดการโกงกินคอร์รับชั่น และการที่ผู้น้อยต้องหมอบคลานต่อผู้ใหญ่ เธอมองว่าทุกประเทศควรเป็นสาธารณรัฐ
มาร์กาเร็ต ไม่เชื่อในศาสนาและเกลียดความงมงายทุกชนิด ที่บ้านซอยอารีเขาจะรื้อศาลพระภูมิทิ้ง แต่เขามองว่าลูกๆ ควรเรียนรู้เรื่องศาสนาต่างๆ แล้วตัดสินใจเอง
มาร์กาเร็ต รักธรรมชาติ รักการอ่านหนังสือ สนใจประวัติศาสตร์และประเด็นทางสังคม เขารักดนตรีของ Beethoven
ถ้าเธอรู้ว่าผมเขียนบทความนี้เกี่ยวกับเธอ เธอคงจะต่อว่าผมด้วยความรำคาญ
ใจ อึ๊งภากรณ์
ขอแสดงความไว้อาลัยกับครอบครัว อาจารย์ ใจ อึ๊งภากรณ์ไว้ ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ
และขออนุญาตอาจารย์นำบทความที่อาจารย์เขียนมาลงไว้เพื่อบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกออนไลน์ไว้ตลอดไป
กังวาล ทองเนตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น